วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รถชนครั้งที่สาม ชน "แพะ" แอะๆๆ

แพะ ที่ว่า ไม่ใช่คำเปรียบเปรยแต่อย่างใด
แต่เป็นแพะที่เป็นสัตว์จริงๆ

เรื่องมีอยู่ว่า เย็นวันศุกร์ทีแสนสุข รู้สึกสบายพรุ่งนี้หยุดเสาร์อาทิตย์ไม่ต้องไปไหน พักผ่อน
ทีไหนได้ พี่ที่ทำงานโทรมาอ้อนวอนให้มาเฝ้าเวรให้วันพรุ่งนี้

เราก็โอเค ไปเฝ้าเวรสำนักงานตามปกติ ขากลับ หิวมาก ขี่รถก็นึกถึงของกินตลอดทาง ใกล้จะถึงบ้านละ อีกนิด
แพะวิ่งออกมาจากทุ่งนาที่ขึ้นสูงข้างทาง คนตะโกนระวัง ตู้มมม ไม่ทัน

ตอนนั้นเจ็บไหล่มากลุกไม่ขึ้น ชาวบ้านแห่มาดูเพียบด้วยความไวแสง
ด้วยความที่ขี้เกรงใจ ไม่ชอบใครมาให้ความสนใจขนาดนี้เพราะไม่ใช่ดารา ฝืนลุกขึ้นมาจนได้

หยิบมือถือจะโทรให้แม่มารับเพราะน่าจะขับไม่ไหว แต่...ตังค์หมด

เอาวะ ชาวบ้านมาเพียบแล้ว ไปดีกว่า เลยบอกว่า "หนูไปก่อนนะ"
แล้วฝืนขับรถต่อไป หวั่นใจอยู่ว่าตอนเลี้ยวทำไวะ เจ็บมากกก

พอถึงบ้านรีบบอกพ่อแม่ว่าขับรถล้ม ตอนนั้นคิดว่าไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็หาย
เห็นเลือดซึมทะลุออกมาตรงกางเกงตรงน่อง ก็ตกใจ

พ่อพาไปอนามัยล้างแผล ก็พบความจริงที่สะเทือนใจกว่าเลือดที่ซึม

หมอนามัยบอกว่า กระดูกไหล่เบี้ยวนะ ให้ไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาล อู้ววว

ก็ไปโรงพบาลที่ตัวเมือง รอคิวนานมากกกก สรุปตั้งแต่เกิดเรื่องมา ความหิวยังไม่ได้รับการบรรเทา
นี่แหละนะ รีบกินสุดท้ายกว่าจะได้กินนานกว่าเดิม

เอ๊กซเรย์เสร็จ ผลออกมาว่า กระดูกไหปลาร้าซ้ายหัก !
โอ้วว ครั้งแรกในชีวิตที่กระดูกหัก (หมอน่ารักดี)

ต่อมาก็ไม่ได้ทำอะไร รอมันหายไปเอง
จบนะ
รถก็เสียหายไปตามระเบียบ หน้ากากหน้ารถแตกเป็นครั้งทีสอง รวมค่าซ่อมสี่พันกว่าบาท
พี่ที่ทำงานก็แซวว่า เขามีแต่ขับรถชนหมา ชนวัว ไอ้นี่ชนแพะ
ก็จริงอ่ะนะ ในสุรินทร์ไม่นิยมเลี้ยงแพะ ยังอุตส่าห์ไปชนมัน ถ้าถามว่าแพะตายไหม ตอบเลยว่า
มันสบายดี อยู่ดีมีสุข

ลางานไปหนึ่งอาทิตย์ ช่วงนั้น เป็นช่วงที่ทุกข์มาก เหมือนจุดต่ำสุดในชีวิต ที่ยังอกหักอยู่ก็แย่แล้ว เจ็บตัวอีก แผลเป็นเพิ่มขึ้นหลายที่เลย ทำอะไรก็ไม่ได้ เสียเงิน เสียเวลา ทุกข์มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่หัวใจยังเลย เฮ้อออ อะไรนักหนา